สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม
The Power of Give - งานเรื่องเล่าคุณภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก |
|
|
|
เขียนโดย Saiphiroon Y. (Loi) |
The Power of Give
งานเรื่องเล่าคุณภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก
|
|
|
Attachment file
|
"นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินสูงไม่ได้"
คำ นี้จริงแท้ จากการที่เราทั้งหมดได้พบกัน นั่นคงหมายความว่าเราทั้งหมดน่าจะมีวาสนาต่อกัน หรืออาจทำบุญร่วมชาติมาก็ได้ เมื่อครางาน IOCS ปิดท้ายหรือประมาณก่อนปิดท้ายได้รับปากกับเพื่อนๆร่วมโครงการว่าจะไปเยือน ที่ คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รวมถึงจะช่วยเป็นที่ปรึกษารวมทั้งหาที่ปรึกษาให้เพื่อนทุกกรณี งานนี้จึงต้องทำตามคำพูดของตัวเองจริงๆเสียที
|
|
อาทิตย์ ที่ 29 มีนาคม 2552 การเดินทางเริ่มต้นขึ้น พี่ซุ้ย(คุณสุรพงษ์ NOK) พี่โย(คุณสราวุฒิ NOK) น้องมาลัย (NOK) และเรา เริ่มเดินทางโดยรถของพี่ซุ้ย อาจเป็นเพราะความเป็นกันเองของพี่ทั้งสองและน้องมาลัยที่เรารู้จักกันเป็น ครั้งแรกแต่เหมือนรู้จักมาแสนนาน ทำให้การเดินทาง 4 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ถึงพิษณุโลก ดูเหมือนว่าจะใช้เวลาไม่นานและไม่มีใครหลับสักคน
เมื่อ มาถึงสิ่งแรกที่ได้เจอคือการต้อนรับที่แสนอบอุ่นจากหมอฝน พี่ฐา น้องจี พาเราทั้งหมดชมห้องที่จะจัดงานในวันรุ่งขึ้น ซึ่งทีมงานจัดได้น่ารักมาก มีสวนดอกไม้ มีผีเสื้อแห่งความสุข ดูแล้วสดชื่นสมเป็นสถานที่จะมาแบ่งปันความรู้กัน จริงๆหลังจากนั้นไม่นาน เราทั้งหมดก็เดินทางไปไหว้พระพุทธชินราช กราบสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช รวมทั้งไปขึ้นเขาไหว้เจ้าแม่กวนอิม เป็นลำดับสุดท้าย ก่อนที่จะเดินทางมาร้านอาหารน่านน้ำ ริมน้ำปิง ซึ่งเพื่อนนิตยาและเพื่อนอุ๊ได้มารอรับคณะของเราที่นี่ ที่ร้านอาหารนั่ง กินไปคุยกันไป จนโต๊ะข้างๆกลับหมดก็ยังเหลือโต๊ะเรานั่งกันอยู่ เราเลยแอบไปร้องเพลงกับ นักดนตรีของร้านเสียหนึ่งเพลง โดยมีนิตยาลงไปให้กำลังใจข้างๆ หลังจากนั้นไม่นานเราทั้งหมดก็กลับเข้าที่พัก เพราะงานนี้ยังเตรียม Presentation กันไม่เรียบร้อย อาจเป็นเพราะเราเองที่ขอปรับกำหนดการของงานใหม่ เลยต้องมานั่งอ่านและเตรียมข้อมูลอีกครั้ง
|
|

|
07.45 น. 30 มีนาคม 2552 นิตยาลงรถตู้โรงพยาบาลมาด้วยชุดพยาบาลสีขาวสะอาดตา ตั้งแต่รู้จักกันมาเรารู้สึกว่าวันนี้เพื่อนสวยมากๆ เหมือนจะสวยที่สุดเท่าที่เราจำได้ งานนี้ได้รับการยืนยันโดยสายตาพี่โยที่แทบหัวใจละลายเมื่อเห็นชุดสีขาวมายืน ตรงหน้า แล้วเราทั้งหมดก็เดินทางสู่คณะแพทย์ มน. นิตยาพาไปกราบสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรที่ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะเข้าไปที่งาน เมื่อเข้างานพบอุ๊ใส่ชุดพยาบาลสีขาวมายืนรอ ทำให้เราและพี่ๆ ประทับใจกับเพื่อนที่ยอมใส่ชุดพยาบาลมาให้เห็น ซึ่งงานนี้เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าหลังๆไม่ได่ใส่ชุดสีขาวบ่อย เนื่องจากงานส่วนใหญ่อยู่ในห้องผ่าตัด แต่อย่างไรเราก็ว่าเพื่อนเราทั้งสอง คนในวันนี้สวยมาก
09.00 น. พิธีเปิดงานโดยท่านคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มน. ท่านอาจารย์ศุภสิทธิ์ซึ่งท่านน่ารักมาก พูดน้อย ต่อยตรงเป้าและมีรอยยิ้มเป็นอาวุธที่ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมทีมหมอฝน พี่ฐา นิต อุ๊ จึงยอมทำงานเหนื่อยและหนัก งานนี้มีน้องจีเป็นพิธีกร ซึ่งอยากบอกว่าเสียงน้องสวยมาก ตอนที่ให้เตรียมความพร้อมทำสมาธิก่อนเริ่มงานน้องจีทำได้ดีมาก ตัวเราเองผ่านกระบวนการแบบนี้มาหลายครั้งยังอดชื่นชมไม่ได้ว่าน้องจีทำได้ดี ไม่แพ้ต้นฉบับ อาจจะดีกว่าตรงเสียงที่หวานกังวาลไปถึงหัวใจทีเดียว
|
|
Share & Learn เชิญมาเล่า ยกที่หนึ่ง “แนวคิด หลักการ และการพัฒนาองค์กร”
พี่ ซุ้ยเริ่มต้นการ Share ด้วยการแนะนำ NOK คร่าวๆ และเข้าสู่หลักการทำงาน หลักคิดที่ทำให้องค์กร NOK และตัวพี่ซุ้ยเองเดินทางมาในเส้นทางของการจัดการความรู้ด้วยให้แนวคิด สอนให้พนักงานคิดและการลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ง่ายๆ ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ก่อน และชื่นชมพนักงานในทุกโอกาสที่สามารถกระทำได้ รวมทั้งยึดในหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ NOK ในวันนี้เป็นองค์กรที่สามารถยืนหยัดได้ แม้ในภาวะเศรษฐกิจประสบปัญหารุนแรงเช่นในปัจจุบัน
|

|
|

|
Share & Learn เชิญมาเล่า ยกที่สอง “หลักทำ นำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”
พี่ โยมาแบ่งปันประสบการณ์การจัดการความรู้ที่แสดงให้เห็นว่าในทางปฏิบัติ เราต้องเลือกทำ เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับคนในองค์กร เครื่องมือการจัดการความรู้มีมากมาย แต่ไม่สามารถใช้แบบเดียวกับทุกคนในองค์กร ทุกคนมีความเก่งต่างกัน เพราะฉะนั้นในทางปฏิบัติ การเลือกเครื่องมือ หรือเลือกอาวุธให้เหมาะสมกับหน้างาน จึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง งานนี้พี่โยนำความรู้เป็นคลิปวิดีโอมาแชร์ตั้ง 2 เรื่อง ทำเอาสาวๆที่นั่งแถวหน้าอ้าปากค้างไปตามๆกัน
|
|
Share & Learn เชิญมาเล่ายกสุดท้าย “กลับไปทำได้อย่างไร หากใจไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
เรา เองที่รับหน้าที่แชร์ในช่วงนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเองคิดว่าน่าจะเป็น ประโยชน์ในทางปฏิบัติให้กับผู้มาฟัง เพราะดูแล้วอารมภ์น่าจะใกล้เคียงกับเราเมื่อเริ่มต้นคืองง ไม่รู้ว่าจะหันซ้ายหรือหันขวาดี หรือจะเริ่มต้นอย่างไรจึงจะถูกใจนาย ในทุกวันของการทำงานอย่างหนึ่งที่ทุก คนมักจะลืมคือ เมื่อทุกคนมุ่งที่ผลงานแต่ลืมดอกหญ้า ใบไม้ข้างทางเสียสิ้น รอยยิ้มระหว่างทางเดินหายไป ใช้ชีวิตไม่เต็มชีวิต ลืมศิลปการใช้ชีวิตมุ่งแต่จะเปลี่ยนคนทั้งโลก แต่ลืมเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดตัวเอง รวมทั้งมัวแต่ปล่อยให้ความฝันในชีวิตหลุดลอย มัวแต่คิดว่าจะทำงานที่รักเท่านั้น แต่ลืมว่าเราต้องรักในทุกสิ่งที่ทำแล้วความสุขจะเป็นของเรา และสูตรสำเร็จในการทำงานที่เราฝากไว้ก็คือ “เอาวะ” และ “ช่างแม่ง” น่าจะทำให้หลายคนกล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวในใจ กล้าเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ก่อนจะสรุปการ Share & Learn พี่โยได้มาเชื่อมโยงให้ผู้ฟังเห็นว่าสิ่งที่สำคัญของการทำงานคือการมีแรง บันดาลใจ การมีความสุขในการทำงาน รวมทั้งหลักการทำงานที่สำคัญจากพี่โยคือ ทำ ทำ และทำ
|


|
|


|
พี่ ซุ้ยยังกรุณามาสรุปปิดท้ายของทั้งหมดด้วยว่าสิ่งทั้งหมดที่แบ่งปันออกมา ล้วนมาจากความสุขของการทำและให้ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนคิดดี ทำดี และนำมาแบ่งปัน ความสุขก็เกิดขึ้นและความสำเร็จก็จะตามมา
ตอน ท้ายของงานหมอฝนได้มากล่าวขอบคุณซึ่งทำเอาหลายคนซาบซึ้งจนเกือบกลั้นน้ำตา ไม่อยู่ เราเองรู้สึกอยากเดินเข้าไปกอดหมอฝนมาก พอหมอฝนพูดจบเราต้องเดินเข้าไปกอด เพราะรู้สึกดีเหลือเกินในความรู้สึกดีๆที่เราทั้งหมดมีให้กัน งานนี้พลังแห่งการให้มีมหาศาลจริงๆ ขอบคุณพี่ซุ้ยที่ให้โอกาสและแสนจะมีน้ำใจงดงามในการช่วยเหลือมาตลอด รวมทั้งการสละเวลาที่มีค่าอย่างยิ่งมาแบ่งปันให้กับสังคมส่วนรวม พี่โยคน น่ารักที่ทำให้งานนี้มีเรื่องราวที่เข้าใจง่ายและประทับใจมาแบ่งปัน ขอบคุณพี่ฐา พี่หมอฝน นิต อุ๊ ที่ให้เกียรติเราเป็นอย่างมากในการที่เปิดโอกาสให้ร่วมเวทีเดียวกับระดับ เซียนและเทพ ขอบคุณน้องมาลัยที่มาช่วยเดินถ่ายรูปให้ ขอบคุณน้าดำที่ขับรถได้นิ่มนวลตลอดการเดินทาง สุดท้ายคงต้องขอบคุณที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เราทั้งหมดได้มาพบกัน และหวังว่าโอกาสต่อไปเราจะได้มาร่วมสนุก มีความสุขจากพลังของการให้ร่วมกันอีกครั้ง
|
|
ข้อเขียนของ Saiphiroon Y. (Loi)
Productivity Facilitator PTTAR
จากการร่วมงาน “เรื่องเล่าคุณภาพ” ของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ทีม IOCS เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552
|
|
|